Archives: Tips & Tricks

ทำไม..ใคร ๆ ก็หันมาใส่สมาร์ทวอช

ยุคนี้ไม่ว่าหันไปทางไหน ก็จะพบเจอแต่คนที่สวมใส่นาฬิกาประเภทสมาร์ทวอร์ชกันเป็นจำนวนมาก แอดเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแต่ใส่ตามกระแสเท่านั้น แต่ด้วยเหตุผลและปัจจัยอะไรบ้างนั้น มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย

ทำไม..ใคร ๆ ก็หันมาใส่สมาร์ทวอช

🌟สมาร์ทวอช ตัวช่วยด้านดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่ ⌚️
การชูจุดเด่นของสมาร์ทวอชด้านการดูแลสุขภาพ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมการใช้งานนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อผู้สวมใส่ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คนในยุคนี้ชื่นชอบ และสวมใส่นาฬิกาสไตล์สมาร์ทวอช ที่มีรูปแบบเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว มากกว่านาฬิกาในรุ่นดั้งเดิม เพราะไม่ใช่แค่การให้ประโยชน์ด้านดูเวลาเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกทำขึ้นโดยเฉพาะ เน้นตอบสนองด้านการดูแลสุขภาพอย่างหลากหลาย
เชื่อมต่อการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นได้สะดวก รวมไปถึงการรับสายโทรศัพท์ในบางรุ่น และการปรับให้ระบบการใช้งานภายในมีความชาญฉลาดกว่าเดิม ซึ่งถือว่าสอดรับต่อความต้องการของคนในยุคดิจิทัล ที่หันกลับมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จุดนี้เองจึงทำให้มีผู้ใช้งานนาฬิกาสมาร์ทวอชสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี และทำให้ทุกแบรนด์จากทั่วโลก รวมถึง Garmin ได้การตอบรับที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

✨สาเหตุสำคัญที่ทำให้นาฬิกาสมาร์ทวอช ฮิตมาก! ในกลุ่มคนรุ่นใหม่👍🏻
สำหรับผู้ที่สนใจจะเลือกใช้นาฬิกาสมาร์ทวอช ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน แต่ยังไม่รู้ว่าการเลือกซื้อในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองได้มากแค่ไหน และทำไมคนรุ่นใหม่ จึงชื่นชอบการสวมใส่นาฬิกาสมาร์ทวอชกันเป็นจำนวนมาก จึงขอแนะนำเหตุผลต่อไปนี้

• เทคโนโลยีที่มีความอัจฉริยะ จะทำให้การตรวจสอบสุขภาพ มีรายละเอียดที่ดีกว่าเดิม รู้ทันต่อความผิดปกติของร่างกายได้รวดเร็วมากขึ้น
• ดีไซน์ของนาฬิกาสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ ถูกทำขึ้นให้มีความทันสมัย และสามารถปรับเปลี่ยนสาย ทั้งรูปแบบและสีสันได้ครบถ้วน จึงสวมใส่ร่วมกับทุกสไตล์การแต่งตัวอย่างเหมาะสม เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องเปลี่ยนนาฬิกาใหม่
• มีการติดตั้ง Payment Feature ไว้ภายในสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ จึงทำให้การใช้จ่าย ง่ายและสะดวก ไม่ต้องพกพามือถือหรืออุปกรณ์ใด ๆ รวมไปถึงกระเป๋าเงินให้วุ่นวาย
• เมื่อใดที่มีปัญหาด้านร่างกาย ความผิดปกติของการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถส่งสัญญาณเตือนไปยังรายชื่อผู้ติดต่อคนสำคัญที่เราตั้งค่าไว้
• สมาร์ทวอชของหลาย ๆ แบรนด์ อย่าง Garmin เอง ยังมีรุ่นที่มีความเฉพาะเจาะจงกับประเภทกีฬา อย่างเช่น กีฬากอล์ฟ กิจกรรมดำน้ำ หรือการวิ่ง ที่มีฟีเจอร์และฟังก์ชันที่สามารถวัดค่าต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นสำหรับการประเมินประสิทธิภาพของการออกกำลังกายประเภทนั้น ๆ ได้อย่างแม่นยำ และครอบคลุมไปถึงมีฟีเจอร์ดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานอีกด้วย

การพัฒนาแบบไม่หยุดยั้งของสมาร์ทวอชที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ฟีเจอร์และฟังก์ชันที่แตกต่างกัน สำหรับให้ผู้ใช้งานเลือกสรรได้ตามความเหมาะสม แอดเชื่อว่า Garmin จะกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ด้านการดูแลสุขภาพและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ใคร ๆ ก็เลือกใส่สมาร์ทวอช

เลือกซื้อนาฬิกา Garmin ได้ที่ 👉🏻 www.alive.store
หรือตัวแทนจำหน่าย Garmin By GIS ทั่วประเทศ

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ วัดได้อย่างไร?

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ☽ คือคำตอบของสุขภาพที่ดีที่สุด

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ วัดได้อย่างไร? สำหรับใครหลาย ๆ คนที่ยังทนต่อการนอนดึก หรือการนั่งทำงานแบบข้ามวัน เพราะเข้าใจว่าการนอนไม่สำคัญต่อชีวิต ถือว่าคิดผิดอย่างมาก เพราะการนอนหลับถือเป็นหนึ่งในสามส่วนของชีวิตมนุษย์ ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างเหมาะสม ในช่วงระยะเวลา 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ถูกจัดเป็นหนึ่งในวิธีทำให้สุขภาพดีได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเสริมหรือยาใด ๆ เพียงแค่ต้องนอนอย่างมีคุณภาพ หลับลึก ทำให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างเต็มที่ จึงจะตื่นมาพร้อมความสดชื่น และทำให้อวัยวะภายในร่างกาย กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยของการนอนจะมาพร้อมกับอายุที่แตกต่างกัน เช่น ช่วงวัยแรกเกิดจะอยู่ที่ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อวัน, ช่วงวัยขวบแรกจะอยู่ที่ประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน, ช่วงวัยเด็กประถมจนถึงวัยรุ่นจะอยู่ที่ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่และวัยทำงานจะอยู่ที่ประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการนอนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน คือ
• ระยะการหลับตื้นในช่วงแรก
• ระยะการหลับลึก ที่ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
• ระยะการหลับฝัน

โดยระยะที่ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด คือ ระยะของการหลับลึก ที่ร่างกายจะเข้าสู่การพักผ่อนอย่างเต็มที่ เป็นช่วงของการหลับสนิท จึงทำให้ความดันโลหิตกับอัตราการเต้นของหัวใจจะลดลง อุณหภูมิร่างกายจะคงที่ อวัยวะภายในจะเริ่มการฟื้นฟูและโกรทฮอร์โมน จะหลั่งออกมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงระยะของการนอนหลับลึก ดังนั้นภายใน 1 วัน ร่างกายจึงต้องการหลับลึกอยู่ที่ประมาณ 60 นาที แต่สำหรับคนวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นหรือปลาย มักจะพบปัญหาของการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม หลับลึกไม่เพียงพอ และหลับ ๆ ตื่น ๆ ไปตลอดทั้งคืน

ซึ่งถือว่าสร้างความอันตรายต่อร่างกายสูงมาก ทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ทางการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมองและหัวใจอุดตันได้ง่ายอีกด้วย นอกจากนี้การรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิตที่ไม่มีการออกกำลังกาย ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การนอนหลับ ต้องพบกับการนอนกรนและการหยุดหายใจชั่วขณะ จนกลายเป็นการหลับไม่เต็มอิ่ม และสะดุ้งตื่นยามค่ำคืน จนทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เพียงพออีกด้วย

Sleep Feature จาก Garmin วัดคุณภาพการนอน ผ่านนาฬิกาคุณภาพหนึ่งในฟังก์ชันการใช้งานนาฬิกาสมาร์ทวอชจาก Garmin ที่ถือว่าให้ประโยชน์ต่อผู้ใช้เป็นอย่างมาก คือ Sleep Tracking Feature ตัวช่วยในการติดตามผลการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ พร้อมให้การติดตามแบบอัตโนมัติ เพียงแค่สวมใส่นาฬิกาในระหว่างการนอนหลับ จะมีการประเมินปัจจัยต่าง ๆ ให้กับคุณครบทุกด้าน ใช้ง่าย เพียงแค่การเชื่อมต่อกับ Garmin Connect App เท่านี้คุณจะรู้ได้ทันทีว่าข้อมูลการนอนยามค่ำคืนของคุณเป็นอย่างไร เมื่อผลออกมาชัดและรู้ทันการนอน ย่อมทำให้คุณปรับวิธีหลับ หรือปรึกษาแพทย์ เพื่อการดูแลสุขภาพให้พ้นจากอันตรายได้ทันเวลา

เลือกซื้อนาฬิกา Garmin ได้ที่ www.alive.store หรือตัวแทนจำหน่าย Garmin By GIS ทั่วประเทศ

Update Approach บ่อยๆดีอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ใช้ Garmin Approach หรืออุปกรณ์ Garmin รุ่นอื่นๆ สิ่งที่จะช่วยทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น รวมถึงการพบปัญหาที่น้อยลงนั่นก็คือการคอยอัพเดทซอฟท์แวร์อย่างสม่ำเสมอ และในการอัพเดทซอฟท์แวร์นั้นจะสามารถช่วยในเรื่องอะไรได้บ้าง?

1. เป็นการอัพเดทข้อมูลสนามกอล์ฟไปในตัว เช่น มีสนามกอล์ฟเกิดใหม่และ Garmin มีข้อมูลสนามกอล์ฟนี้เพิ่มแล้ว หรือสนามที่มีอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของสนาม
2. เพิ่มฟังก์ชันบางอย่าง หรือทำให้การทำงานของซอฟท์แวร์ที่อยู่ในเครื่องอัพเดทและทำงานได้ดีขึ้น
3. เป็นการช่วยจัดการเก็บข้อมูลที่ถูกบันทึกเอาไว้ในเครื่องมาอัพโหลดขึ้นอินเตอร์เน็ต

ส่วนการอัพเดท Garmin Approach นั้นควรทำผ่านโปรแกรม Garmin Express บนคอมพิวเตอร์ โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วทำตามโปรแกรม Garmin Express (การเข้าโปรแกรมจะใช้รหัสเดียวกับ Garmin Connect) ซึ่งการอัพเดทนั้นควรที่จะทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพราะนอกจากเป็นการอัพเดทข้อมูลแผนที่สนามกอล์ฟแล้ว อาจมีการอัพเดทพวกฟีเจอร์ต่างๆให้ใช้งานได้มากขึ้น หรือเป็นการแก้บัคให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โหลดโปรแกรมได้ที่ >>> https://bit.ly/3kVPYB6

Training Status คืออะไร

Training Status (สถานะการฝึกซ้อม) ฟีเจอร์เด็ดที่จะมาช่วยประเมินผลสถานะของการฝึกซ้อมปัจจุบัน โดยใช้ความหนักของการฝึกซ้อม (Load) นำมาเปรียบเทียบกับความฟิตของร่างกาย(Vo2max) โดยจะแสดงเป็น 7 สถานะดังนี้

Overreaching – ระดับการฝึกหนัก แต่ระดับความฟิตลดลง เกิดจากการฝึกที่หนักกินไป ควรลดการฝึกให้น้อยลง

Detraining – ระดับการฝึกซ้อมน้อยไป และระดับความฟิตก็ตกลง ถ้าขึ้นแบบนี้ได้เวลาซ้อมบ่อยขึ้น หรือเพิ่มความหนักในการซ้อมมากขึ้น

Unproductive – ระดับการฝึกซ้อมสูง แต่ระดับความฟิตตกลง อาจจะเกิดจากการพักผ่อนน้อยเกินไป อาจมีความเครียด หรือโภชนาการที่ไม่เหมาะสม

Maintaining – ระดับการฝึกไม่หนัก ไม่เบา ส่วนระดับความฟิตทรงตัว การซ้อมครั้งนี้เป็นการรักษาความฟิตของตัวเอง

Recovery – ระดับการฝึกเบา ส่วนระดับความฟิตยังคงที่อยู่ มักจะขึ้นกรณีช่วงหลังจากการแข่งขันหรือช่วงพักหลังจากการซ้อมหนัก

Productive – ระดับการฝึกกำลังดี และระดับความฟิตเพิ่มขึ้นเกิดการพัฒนา การฝึกซ้อมครั้งนี้มาถูกทางแล้ว

Peaking – ระดับการฝึกบาลง แต่ระดับความฟิตยังเพิ่มขึ้น เป็นช่วงที่ร่างกายฟิตพร้อมกับการแข่งขันที่สุด

ให้ Training Ststus เป็นตัวช่วยให้มองเห็นว่าเราออกกำลังกายมาถูกทิศทางแล้วหรือยัง? 

ดู Garmin รุ่นที่มี Training Status ได้ที่ : https://bit.ly/Features-TrainingStatus

วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม Zwift

อีกหนึ่งโปรแกรมปั่นจักรยานและวิ่งเสมือนจริง (Virtual Run) ยอดนิยมในช่วงที่ต้องซ้อมอยู่บ้านในช่วง Covid-19 นี้ หลายๆคนที่อยากจะลองเล่นแต่ยังไม่รู้ขั้นตอนว่าจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีขั้นตอนอย่างละเอียดให้ลองทำตามกันได้เลย

สนใจนาฬิกา Garmin ที่รองรับ Zwift หรือ Virtual run สั่งซื้อได้ที่ >> http://bit.ly/Virtualrun

1. Download Application Zwift , Zwift Companion

2. เข้าสู่ Application

3. ใส่ ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลผู้สมัคร

4. ใส่ Email และ Password

5. เลือกชนิดกีฬาและจุดประสงค์การฝึกซ้อม

6. เชื่อมต่ออุปกรณ์ Garmin ที่มี ด้วย Bluetooth หรือ Ant+ (สำหรับการวิ่งสามารถดูการใช้งาน Virtual Run ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=YBc8vFqPOT4)

7. เลือก เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก

8. เลือกสนามปั่น แล้วเริ่มกันได้เลย !!

How to การตั้งค่าโหมด Surf Skate – นาฬิกา Garmin

เรียกได้ว่าเป็นกีฬา Extreme สุดฮิต ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เค้าฮิตกันทั่วโลกกกกเลยทีเดียว สำหรับ “เซิร์ฟสเก็ต” หรือ เซิร์ฟบก นั่นเอง! ว่ากันง่าย ๆ มันคือการจำลองการเล่น Surf นั่นแหละ แต่ช่วงที่ไม่สามารถไปโต้คลื่นที่ทะเลได้ เหล่า Surfer ก็จะจำลองการเล่นผ่าน Surf Skate แทน

แอดลองเล่นแล้ว เหนื่อยเอาเรื่องเลยค่ะเพื่อน ๆ

สิ่งที่อยากเตือนสำหรับ Beginner ก็คือ ควรมี Safety Set อย่างพวกสนับเข่า สนับมือ หรือหมวกกันน็อคด้วยก็จะดีมาก แอดลองเล่นไปได้ 3 วัน พอเริ่มจับทางได้ก็เลยลองจับแมทช์กับนาฬิกา Garmin เพื่อแทรคดูว่า การไถไปแบบเพลิน ๆ ชิล ๆ นี่แหละ เผาผลาญแคลอรี่ไปพอ ๆ กับคาดิโอเลยทีเดียว

*นาฬิกา Garmin ไม่มีโหมด SurfSkate นะคะ ต้อง Create Activity ขึ้นมาเอง โดยสามารถตั้งค่าได้เลยว่าเราอยากจะวัดค่าอะไรบ้าง

มาดูตัวอย่างการตั้งค่าตามแอดก็ได้ค่า ตามรูปด้านล่างเลยยย

ใครเล่นแล้วเป็นยังไงกันบ้าง มาโพสต์โชว์ skate & stat กันที่ comment ได้เลยนะ
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนมีกิจกรรมหรือกีฬาอะไรมันส์ๆ แวะมาแนะนำแอดได้น้า

ส่วนใครยังไม่มี Garmin เท่ๆ ที่เหมาะกับกิจกรรมลุยๆอย่าง Instinct Solar ก็สามารถกดสั่งซื้อได้เลยน้า >> http://bit.ly/Instinct-Solar

**รุ่นที่รองรับ : Garmin ทุกรุ่น ยกเว้น vivomove Series, vivosmart series, vivosport, vivofit

#GarminByGIS
#AliveStore
#SurfSkate

How to เปลี่ยนสายนาฬิกา Instinct แบบง่ายๆ

Garmin Instinct Solar นาฬิกา Multisport นาฬิกาเดินป่า แบตอึด มีฟังก์ชั่น Pulse Ox (Pulse oximetry ใช้วัด oxygen saturation หรือ SpO2)), วัด heart rate

สนใจข้อมูล Garmin Instinct Solar เพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ : https://www.alive.store/shop/products/acc-replacement-band-instinct

การตั้งค่า Lap ใน Garmin

🏃เพื่อนๆอาจจะคุ้นเคยกับการแจ้งเตือนรอบ(Lap) ของนาฬิกา Garmin เมื่อวิ่งครบระยะทุกๆ 1 กม. ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นของนาฬิกา แต่บางครั้งเราวิ่งในสนามวิ่ง หรือสวนสาธารณะและอยากรู้เวลาของเราที่ทำได้ในแต่ละรอบที่ไม่ใช่ทุกๆ 1กม. โดยไม่ต้องมานั่งคำนวณเอง

⌚️Garmin ช่วยคุณได้! โดยเราสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนรอบ(Lap) ตามระยะทางที่ต้องการ เช่น 400เมตร 2.5กม. 5กม. นาฬิกาจะแจ้งเตือนทุกๆครั้งเมื่อครบระยะที่เราตั้งค่าไว้ และสามารถดูรายละเอียดแต่ละรอบ(Lap)ได้จากนาฬิกา และใน Garmin connect

⭕โดยมีขั้นตอนการตั้งรอบ(Lap) ดังนี้
1.เข้ากิจกรรมวิ่ง
2.กดปุ่มซ้ายกลางค้างไว้เพื่อเข้าสู่เมนู
3.เลือก “Run setting”
4.เลือก “Auto Lap”
5.ตั้งค่าระยะตามที่ต้องการ

เท่านี้ Garmin ก็จะแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อครบรอบ(Lap)ตามที่ตั้งค่าไว้แล้ว…

😃ดูข้อมูล Garmin รุ่นต่างๆได้ที่ https://www.alive.store/shop

⌚ ด้วยเหตุที่ Garmin นั้นมีฟังก์ชั่นสำหรับใช้ติดตามสุขภาพและการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน หลักก็คือ Heart Rate ที่วัดได้ตลอดเวลาและยังมี Stress, Body battery, Pulse OX, Sleep แล้วยิ่งใส่นานต่อเนื่องก็ยิ่งแม่นทำให้ไม่อยากถอดนาฬิกาออกจากข้อมือ วันนี้แอดจึงขอแนะนำเคล็ดลับที่ช่วยให้ใส่นาฬิกาได้สบายไม่ระคายผิวในระยะยาว

1. ปรับความกระชับให้พอดี⌚👌
ปรับสายนาฬิกาให้กระชับพอดีสำหรับการใส่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะแน่นน้อยกว่าการใส่เล่นกีฬา🚴‍♀ ไม่หลวมจนมีช่องว่างและไม่แน่นจนเนื้อปลิ้น จะทำให้ใส่ได้นานและเซ็นเซอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ

2. ถอดบ้างเมื่อจำเป็น ⌚🙋‍♂
ควรถอดนาฬิกาเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อจำเป็น เช่น ตอนอาบน้ำหรือหลังจากทำกิจกรรมที่เปียกน้ำ เพื่อเป็นการลดความอับชื้น💦 ลดการสะสมตัวของเชื้อราแบคทีเรีย🦠และยังป้องกันการสะสมของคราบสบู่หรือสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ของผิวหนัง

3. เช็ดให้แห้งทุกครั้ง ❌💦
เมื่อนาฬิกาเปียกน้ำหรือมีเหงื่อออกเยอะ ควรถอดออกเพื่อซับให้แห้งแล้วค่อยใส่อีกครั้ง เพราะความเปียกชื้นเป็นต้นตอของอาการระคายเคืองทางผิวหนัง😔

4. แป้งช่วยได้💭
ถ้าเหงื่อออกง่าย แอดขอแนะนำให้ทาแป้งบางๆ รอบข้อมือ ช่วยได้มากเลยล่ะ 👍

ลองทำกันดูนะครับ ใส่ Garmin สบายติดตามสุขภาพและกิจกรรมได้ทั้งวันทั้งคืนจริงๆ

#GarminSport
#GarminThailand

PacePro For Road Runner

1.การเข้าสู่เมนู PacePro

• เข้าเมนูมุมซ้ายบน
• เลือกเมนู Training และเลือก PacePro Pacing Strategies
• เลือกสัญลักษณ์ + เพื่อสร้าง PacePro
• เลือก Select a Race Distance (สำหรับการแข่งขันที่ไม่มีไฟล์แผนที่การแข่งขัน)

2.เลือกระยะ และกำหนดเวลาที่ต้องการ

•  ระยะทางการวิ่งในระดับมาตรฐานสากลได้แก่ ระยะ

5 Km.

10 Km.

21.1 Km. = Half-Marathon

42.195 Km. = Marathon

Other = กำหนดระยะทางเอง

•  ช่องเวลาจะแบ่งเป็น ชั่วโมง : นาที : วินาที

• ผู้ใช้สามารถเลือกได้ 2 รูปแบบคือ

Goal Pace : คือความเร็วเฉลี่ยที่ต้องการวิ่งตลอดระยะทาง
Goal Time : เวลาเป้าหมายที่ต้องการวิ่งให้จบ

*Tip ควรจะตั้ง Goal ให้อยู่ในช่วงเวลา หรือความเร็ว ที่เราสามารถทำได้จริง ไม่ควรตั้งไว้เร็วจนเกินไป

3. ตั้งชื่อ PacePro และเลือกการแบ่ง Split

•  ตั้งชื่อ PacePro ที่สร้าง

เพื่อความง่ายในการจำ แนะนำให้ตั้งเป็นชื่องาน  ชื่อระยะทาง หรือเวลาที่ต้องการจะทำ

•  การปรับแต่งข้อมูล PacePro ในช่อง “Splits”

• Every Mile = ทุกๆ ไมล์ (1 ไมล์ = 1.61กม.)     
  • Every Kilometer = ทุกๆ 1 กิโลเมตร               

4. เลือกกลยุทธในการวิ่ง

• หัวข้อ Pacing Strategy จะมี “Slide Bar” สำหรับให้เลื่อนซ้าย -ขวา

ส่วนนี้คือการเลือกกลยุทธ์ใจการวิ่ง

• ตรงกลาง                                            : วิ่งด้วยความเร็วเท่ากันตลอดทาง

• เลื่อนซ้าย = Positive Split            : เริ่มต้นด้วยการวิ่งเร็ว แล้วค่อยๆวิ่งช้าลง

• เลื่อนขวา = Negative Split          : เริ่มต้นด้วยการวิ่งช้า แล้วค่อยๆวิ่งเร็วขึ้น

“ไม่ว่าจะเลื่อนไปทางไหน เวลารวมทั้งหมดจะเท่ากัน”

5. ส่งข้อมูลไปที่นาฬิกา

• กดที่สัญลักษณ์ Sent to device

• เลือกรุ่นนาฬิกาที่ต้องการ (กรณีมีหลายเรือน)

• รอซักครู่เมื่อขึ้นเครื่องหมาย    ⁄   แสดงว่าส่งข้อมูลเสร็จแล้ว

การเข้าบนใช้งาน PacePro บนนาฬิกา GARMINบนนาฬิกา